นพรุจ Book เหมภมร นักกีฬา Tekken ชาวไทย กับเส้นทาง E-sports

นพรุจ Book เหมภมร นักกีฬา Tekken ชาวไทย กับเส้นทาง E-sports

ขอบคุณภาพจาก KingofGamers

นพรุจ Book เหมภมร นักกีฬา E-sports เกม Tekken ของประเทศไทย ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ โดย กว่าจะก้าวไปสู่เบอร์หนึ่งของอาเซียนได้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เส้นทางของเขาเป็นอย่างไรกัน

เขาเป็นคนเกลียดเกมไฟท์ติ้ง โดยย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ Book ยังอายุเพียง 5 ขวบ Harvest Moon : Back to the Nature คือเกมที่เขาโปรดปรานมาก รวมถึงบรรดาเกมออนไลน์ยอดฮิตในร้านเกมสมัยนั้น ต่างก็ผ่านมือเขามาหมดแล้ว ทว่าเกมไฟท์ติ้ง กลับเป็นเกมที่เขาเกลียดที่สุด

เข้าสู่วงการเกมครั้งแรกของ Book

“จริงๆแล้วตอนนั้นก็ไม่ได้เล่นเกมเยอะ ไม่ได้ชอบแนวไหนเป็นพิเศษด้วย แต่อยากจะลองเล่นเกมไฟท์ติ้งบ้าง ก็เลยไปยืมแผ่น Tekken 3 จากญาติมาเล่น” แล้ว“พอได้เล่นก็ไม่ค่อยชอบครับ เพราะเล่นแล้วแพ้ คนที่เราเล่นด้วยเขารู้วิธีกดท่า แต่เรายังเด็กก็กดมั่วๆ เอาจอยใส่เสื้อแล้วไถปุ่มมั่วๆเอา โดนต่อยจนไม่ได้ลุก รู้สึกเหมือนโดนโกงจนเลิกเล่นไปเลย”

เวลาต่อมาไม่นาน นพรุจ Book เหมภมร เล่นเกมหนักขึ้น และมันก็ไม่ใช่เกมอื่นใดนอกจาก Tekken 6 ภาคต่อของเกมที่เขาเคยเกลียดที่สุด เพียงเพราะเหตุผลว่าภาพสวย และอยากตกแต่งตัวละคร

“ช่วงประถมปลายผมเริ่มเล่นเกมหนักขึ้น เกิดจากการที่ผมไปดูหนังแล้วเห็นตู้เกม Tekken 6 เห็นว่าภาพมันสวยดี ”

“ตอนเด็กๆผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่า Tekken 3 มันคือเกมชื่ออะไร ตอนมาเล่น Tekken 6 ก็เลยแค่รู้สึกว่า เฮ้ย เกมมันคุ้นๆนะ เห็นตัวละครใส่ถุงมือสีแดงๆอย่าง Jin ก็คุ้นๆ แล้วตอนนั้นตู้ Tekken 6 จะมีระบบการ์ด คล้ายๆกับเป็นการเซฟ ใช้บันทึกสถิติการเล่น เก็บเงินแต่งตัวละครได้ ก็เลยลองเล่นเกมไฟท์ติ้งดู​อีกสักครั้ง”

ระหว่างทางจากโรงเรียนกลับบ้าน Book จะแวะเล่นเกมอยู่เสมอวันละ 1-2 ชั่วโมง จนถูกทางบ้านถามว่าทำไมถึงกลับดึก และทุกสุดสัปดาห์ Book ต้องออกจากบ้านทุกวันเพื่อไปประจำการณ์ที่ตู้เกม และเคยเล่นนานถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน เลยทีเดียว

ปี 2013 เป็นช่วงที่ Tekken Tag Tournament 2 กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก จนมีการจัดแข่งขันรายการ SEA Major 2013 ที่ประเทศสิงคโปร์ แม้จะไม่ได้จำกัดว่าผู้เล่นจะมาจากโซนไหน แต่ผู้เล่นจากอาเซียนส่วนใหญ่ มักจะไปพิสูจน์ฝีมือตัวเองในงานนี้

“มีรุ่นพี่คนหนึ่ง เป็นผู้เล่นระดับท็อปของไทยในเวลานั้น มาทาบทามว่าสนใจจะไปแข่งรายการนี้ไหม เพราะเขาก็จะไปเหมือนกัน อยากหาเพื่อนไปด้วย ซึ่งเขาเห็นว่าผมเริ่มมีฝีมือ ก็เลยชวนว่าอยากลองไปแข่งไหม คนจะได้รู้จักเรามากขึ้น เพราะช่วงนั้น Tekken Tag Tournament 2 มีระบบ Ranking ทั้งผู้เล่นสามารถดูอันดับและสถิติของผู้เล่นโซนอื่นได้ ซึ่งผมจะติดอันดับ 1-2 โซนเอเชียตลอด เพราะตอนนั้นเล่นแบบติดมากๆ คนก็เริ่มอยากรู้จักว่า Book มันคือใคร ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาชวนผมไปแข่งด้วย”

ช่วงก่อนแข่ง SEA Major 2013 Book ยังคงศึกษาอยู่ในระดับ ม.4-5 ไม่มีรายได้พาตัวเองไปยังประเทศสิงคโปร์ จึงต้องไปปรึกษาแม่เพื่อขอเงิน

ม้ามืด คือคำจัดกัดความของ Book ใน SEA Major 2013 หลังระเบิดฟอร์มสุดยอดผงาดคว้าแชมป์ของรายการได้สำเร็จ จากนักสู้ทั้งหมดกว่า 40 ขีวิต และได้เงินรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านไป 7,000 บาท 

หลังจากนั้น Book ยังคงโลดแล่นในวงการ Tekken และมีได้ไปคัดตัวลงแข่งรายการ Global Championship ก่อนคว้าโควต้าของไทยเพียงหนึ่งเดียว ไปดวลกับผู้เล่นจากทั่วโลก และเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอคู่ปรับตัวฉกาจเป็นครั้งแรก

“รายการนั้นผมจบอันดับ 4 ไปแพ้ให้กับผู้เล่นฟิลิปปินส์อย่าง AK ที่ตอนนั้นอายุแค่ 13 ปี แล้วก็มีโอกาสได้เจอกับเขามาเรื่อยๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะแพ้เขามากกว่า”

การสนับสนุน Book จากต่างชาติ

“ช่วงแรก Tekken 7 ไม่มีความสมดุลเลย เกมมันยังดูแปลกๆอยู่ แต่ก็มีโอกาสได้ไปแข่งบ้าง มีสปอนเซอร์สนับสนุนไปแข่งที่ญี่ปุ่น”

“แต่หลังกลับมาจากญี่ปุ่น ช่วงปี 2016 ผมว่างมากๆ ไม่ได้ลงแข่งเลย จริงๆแล้วช่วงปลายปี 2015 ถึงต้นปี 2016 เป็นช่วงที่ผมคิดอยากเลิกเล่นมากที่สุดแล้ว เพราะงานแข่งน้อย ไม่มีท่าทีถึงความน่าตื่นเต้น เราเล่นมานานด้วย ก็รู้สึกอิ่มตัว”

ระหว่างนั้นที่หยุดเล่น Tekken ได้หนึ่งปี เพราะว่าไม่ค่อยมีงานแข่ง

โดยในภายหลังจากที่ Tekken 7 วางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบทั่วโลก Book แทบไม่ได้เล่น Street Fighter ต่ออีกเลย ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากทีมในมาเลเซียอย่าง Flash Vision ติดต่อไปร่วมทีมด้วย และพวกเขาคือต้นสังกัดแรกอย่างเป็นทางการของเขา

แม้ Flash Vision จะไม่ได้มีเงินทุนเยอะ แต่พวกเขาก็ให้โอกาส นพรุจ Book เหมภมร มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ สนับสนุนส่งไปแข่งขันทั้งในมาเลเซียกับสิงคโปร์ ทั้งที่ผลงานส่วนตัวของเขายังไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก

ปี 2017 บริษัทผู้ผลิตเกม Tekken อย่าง Bandai Namco Entertainment ได้จัดทัวร์นาเมนต์แข่งขันอย่างจริงจังเป็นรายการแรกคือ Tekken World Tour โดยจะมีรายการย่อยแข่งขันเก็บคะแนน เพื่อหานักสู้ 20 คน ไปแข่งในอีเวนท์ใหญ่

“ในปีนั้น ผมได้ไปแข่งรายการเดิมคือ SEA Major ที่สิงคโปร์ คนก็อยากเห็นเราได้ไปแข่งในรอบไฟนอล เพราะเป็นคนไทยคนเดียวที่มาแข่งงานนี้”

“จนเข้าไปถึงรอบท็อป 8 ได้ คนก็เริ่มวิเคราะห์กันใน Twitter แล้วว่าใครจะได้เข้ารอบบ้าง ซึ่งผมต้องจบไม่ต่ำกว่าอันดับ 2 เพื่อที่จะได้ไปแข่ง Tekken World Tour ซึ่งโอกาสเป็นไปได้ยากมาก”

“สุดท้ายผมจบอันดับ 7 ไม่สามารถไปถึง Tekken World Tour ปีแรกได้ ก่อนจะมามาลุยแข่งทัวร์นาเมนต์ในไทยทั้ง Tekken และ Street Fighter ที่แม้จะไม่ค่อยได้เล่นแล้ว แต่ก็ไม่อยากพลาดโอกาสลงแข่งไป”

ปี 2018 Alpha Red ทีมอีสปอร์ตส์ชื่อดังของไทย ได้จัดแข่งขัน Street Fighter V ที่ Book ผงาดคว้าแชมป์ และมีโอกาสได้รู้จักกับคนในทีม Alpha Red ซึ่งกลายเป็นต้นสังกัดที่สองในชีวิตของเขา

การแข่ง World Tour ครั้งแรก

ปี 2018 นพรุจ Book เหมภมร ลงแข่งขันถึง 7 ทัวร์นาเมนต์ จนกระทั่งเก็บแต้มทำอันดับไปแข่งใน Tekken World Tour 2018 ที่อัมสเตอร์ดัมได้สำเร็จ

แม้จะก้าวไปสู่รายการยิ่งใหญ่ที่สุดของ Tekken 7 ได้ แต่ด้วยหลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ Tekken World Tour ปีแรกของ Book พ่ายแพ้แบบหมดรูป แม้จะน่าเสียดาย แต่เจ้าตัวก็ดีใจที่ได้เป็นหนึ่งในนักสู้ของทัวน์นาเมนต์ Tekken ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

แต่ไม่นานนัก นพรุจ Book เหมภมร ก็ได้ต้นสังกัดใหม่อีกครั้ง

“ปี 2019 ผมเป็นผู้เล่นไม่มีสังกัด แต่มีทีมญี่ปุ่นชื่อ Walker Gaming มาถามว่าผมมีเวลาว่างไหมประมาณ 2 สัปดาห์ จะชวนไปลงแข่ง 2 ทัวร์นาเมนต์ หนึ่งในนั้นคือ EVO Japan 2019 ผมก็ตอบตกลงทันทีเลย”

“ทุกทัวร์นาเมนต์ของ Tekken ผมจะคาดหวังแค่ว่าขอแค่ท็อป 8 ก็พอ เพราะจะได้จัดแข่งในวันสุดท้ายของอีเวนท์ สุดท้ายก็สามารถเอาชนะโปรเพลเยอร์มา 5 คน ฝ่าไปจนถึงรอบท็อป 8 ได้ ซึ่งผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะการที่จะเอาชนะโปรเพลเยอร์ได้คนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

ท้ายที่สุดแล้ว Book จอดป้ายที่อันดับ 7 จากการพ่ายแพ้ให้กับ Arslan Ash โปรเพลเยอร์ชาวปากีสถาน ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ภายหลัง และโด่งดังเป็นพลุแตกขึ้นมาทันที จนทำให้เกิดคำถามว่าทำไมสิ่งที่เขาพยายามมานาน Arslan Ash กลับทำได้อย่างง่ายดาย

“ยอมรับนะครับว่า Arslan เขาเก่งจริงๆ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ คิดว่าสู้เขาได้เหมือนกัน ก็จะพยายามพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ”

อีกสักตั้งกับ World Tour

ในขณะที่ Tekken World Tour 2019 กำลังจะกลับมาเปิดสังเวียน Book ก็เริ่มหาทีมใหม่อีกครั้ง

“ตอนแรกคิดว่าจะไปขอทีมไทยอยู่ด้วย แต่คิดว่าคงไม่มีใครสนใจ เลยไม่เอาดีกว่า”

“ผมมองตามความเป็นจริงว่า ใครทำทีมก็ต้องการกำไร ซึ่ง Tekken ไม่ใช่เกมที่ตอบโจทย์ เพราะมันยากมากในการที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะต้องชนะทุกงานเพื่อให้ทีมได้กำไร ก็เลยคิดว่าลองไปคุยกับทีมต่างประเทศแล้วกัน เลยไล่ถามไปเรื่อยๆจนได้ Talon Esports มาเป็นผู้สนับสนุนใหม่”

“รายการแรกที่เขาส่งไปแข่งคือ Taiper Major 2019 ก็ทำผลงานได้ดี คว้าอันดับ 4 มา เขาก็อยากให้เราได้ไปแข่ง World Tour อีกครั้ง ก็เลยสนับสนุนเราลงแข่งรายการต่อไปเรื่อยๆ”

ปี 2019 ทุกอย่างดูจะเป็นใจให้กับ นพรุจ Book เหมภมร ทั้งการมีต้นสังกัดใหม่ และได้เป็นตัวแทนซีเกมส์ นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนพฤศจิกายน ก็ได้มีโอกาสไปแข่งที่ต่างประเทศอยู่เป็นประจำ รวมถึงในเดือนตุลาคม ยังได้ไปเก็บตัวช่วงก่อนแข่งซีเกมส์ที่ประเทศเกาหลีอีกด้วย ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเอง และเตรียมพร้อมก่อนแข่งในเดือนธันวาคมอย่างเต็มที่

“ด้วยความที่ผมไปแข่ง World Tour มาเยอะมาก ทำให้ผมรู้จักโปรเพลเยอร์เกาหลีหลายคน”

“ตอนไปเก็บตัวก็เลยทักหาแต่ละคนว่าใครว่างมาช่วยผมซ้อมบ้าง ซึ่งทุกคนก็พร้อมช่วยและให้คำแนะนำได้ดีมาก เขาก็ให้กำลังใจด้วยว่าเรามีโอกาสได้เหรียญทองซีเกมส์สูง เพราะในภูมิภาคอาเซียน ผมมีโอกาสไปไปทัวร์มากกว่าใคร”

ในซีรีส์ World Tour 2019 Book ตระเวนแข่งมากถึง 10 งาน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำอันดับไปถึงรอบไฟนอลได้ ทว่ายังมีโอกาสแก้ตัวในรอบ Last Chance Qualifier หาผู้ชนะแค่คนเดียวเท่านั้นไปแข่งรอบไฟนอล ซึ่งบังเอิญตรงกับช่วงแข่งซีเกมส์พอดี

“พอเราชนะปากีสถานได้คนหนึ่ง แต่ก็มาแพ้ให้กับ Bilal ชาวปากีสถานอีกคนในรอบ Winners Finals แล้วก็ไปแพ้ให้ AK อีกครั้งในรอบ Losers Finals สุดท้ายเป็น Bilal ที่ได้โควต้ารอบไฟนอลคนสุดท้ายไป แต่ผมก็คิดว่าแพ้ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปเต็มที่เอาในซีเกมส์ งานแข่งก็ส่งท้ายปีก็ได้”

จริงๆแล้วผมก็ท้อนะ เพราะทุกรายการ World Tour ผมจบแต่อันดับ 7-9 มาตลอด ยกเว้นงานแรกที่ไทเป มันทำให้ผมเลิกคาดหวังจะเข้ารอบลึกๆ แต่ในเวลาเดียวกันก็ได้เรียนรู้ที่จะเลิกคาดหวังด้วยเช่นกัน

Book ออกสตาร์ทในซีเกมส์ได้อย่างสวยงาม โชว์ฟอร์มดุชนะรวดตีตั๋วเข้าสู่ Winners Semi-Finals เช่นเดียวกับ Shin Akuma อีกหนึ่งตัวแทนทีมชาติไทย ซึ่งพวกเขาทั้งสองต้องไปเจอ 2 นักแข่งเจ้าภาพด้วยกันทั้งคู่ คือ AK และ Doujin

ก่อนหน้านี้ การลงแข่งในนามทีมชาติไทยครั้งแรกของ นพรุจ Book เหมภมร คือ Esports World Championship 2017 ที่ปูซาน ซึ่งเขาคว้าตำแหน่งรองแชมป์โดยแพ้ให้กับ Doujin เท่ากับว่าเขาเคยแพ้สองผู้เล่นฟิลิปปินส์มาหมดแล้ว

สองตัวแทนฟิลิปปินส์ใน ซีเกมส์ 2019

“ด้วยความที่การแข่งขันในรอบ Winners Semi-Finals จะเป็นระบบ Bo5 ผมเลยคิดว่าถ้าลองเล่น Akuma แล้วแพ้ไปสักเกมคงไม่เสียหายอะไร ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด ชนะ 3-0 เลย”

ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งตัวแทนไทยอย่าง Shin Akuma เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้ในรอบ Winners Finals คู่ต่อสู้ของ Book คือ Doujin

“จริงๆแล้วความคิดของผมมีสองแบบคือ แพ้ชนะไม่เป็นไร โฟกัสกับสิ่งที่จะทำ และ อย่าไปซีเรียสเรื่องตัวละครมาก อย่าอีโก้เยอะ เพราะการมาในนามทีมชาติ คนไม่จำหรอกว่าเราเล่นตัวอะไร อาจจะไม่จำด้วยซ้ำว่าเราชื่ออะไร รู้แค่ว่าเราเป็นตัวแทนทีมชาติไทย และอยากเห็นเราได้เหรียญ ก็คงไม่เป็นไรหรอกถ้าเลือกตัวไม่ถูกใจแล้วจะโดนด่า”

“ถ้าแพ้คนอาจจะไม่จำเหมือนกัน แต่ก็เป็นไร สุดท้ายได้อย่างสิ่งที่อยากลองก็พอแล้ว และผมก็เอาชนะ Doujin ได้ 3-1”

ผลจากการพ่ายแพ้ Book ทำให้สองตัวแทนเจ้าภาพต้องไปเจอกันเองในรอบ Losers Finals ก่อนที่ AK จะเป็นฝ่ายเอาชนะ Doujin ได้  3-2 ได้โอกาสล้างตากับ Book อีกครั้ง

หลังจากมีบทเรียนในรอบ Winners Semi-Finals มาก่อน AK ก็ทำการหยิบ Akuma มาวัดฝีมือกับ Book ที่ใช้ตัวเดียวกัน แต่เป็นฝ่ายนักแข่งชาวไทยที่ทำได้เหนือกว่า เอาชนะทำสกอร์ขึ้นนำ 2-1 จนนักสู้เจ้าภาพต้องเปลี่ยนไปเล่น Shaheen จนตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ

แต่ท้ายที่สุดแล้ว Book ก็เป็นฝ่ายย้ำแค้น เอาชนะไปได้แบบสุดระทึก 3-2 พร้อมคว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยได้อย่างยิ่งใหญ่

เรื่องของเกมและการเรียนของ นพรุจ Book เหมภมร

สิ่งหนึ่งที่ Book ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน คือตั้งแต่ช่วงทำอันดับไปแข่ง World Tour เขายังคงศึกษาอยู่ “จริงๆปีนี้ผมต้องจบแล้ว ทั้งการเรียน กับการแข่งขัน World Tour ผมไม่อยากพลาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป จึงเลือกทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน”

“โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ เพราะบางครั้งต้องขาดเรียน แต่เขาก็ให้สิทธิพิเศษเรามากกว่าคนอื่น ซึ่งเพื่อนๆก็เข้าใจว่าเราเหนื่อยจริงๆ เพราะผมไม่ได้เรียนในกรุงเทพฯ รถส่วนตัวก็ไม่มี ต้องนั่งรถไปถึงชลบุรีเอง แล้วบางครั้งก็ต้องรีบกลับเพราะมีนัด หรือมาแข่งต่อ”

ข่าวร้ายที่ นพรุจ Book เหมภมร ไม่อยากรู้ ดันมาเกิดขึ้นก่อนแข่งซีเกมส์ จนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาอาจจะดูนิ่งเฉยตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์

“ผมรู้เกรดก่อนไปซีเกมส์หนึ่งสัปดาห์ว่า มีวิชาที่ผมไม่ผ่าน” “เหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างเลย จากที่คาดหวังว่าจะจบก่อนแข่งซีเกมส์ น่าจะเป็นอะไรที่ดีอยู่ ปรากฏว่าไม่ผ่านตัวเดียว ผมเลยเซ็งมากๆ แล้วก็นั่นแหละครับ เป็นหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่ดีใจในซีเกมส์ เพราะรู้สึกว่าต้องไปๆกลับๆชลบุรี 3-4 เดือน อีกแล้ว”

“บางคนเล่นเกมที่ไม่ดังแต่ยังเล่นต่อไปเรื่อยๆเพราะใจรัก ส่วนบางคนก็เลิกเล่นเพราะเกมไม่ดัง ส่วนตัวผมมองว่า Tekken อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเหมือนเกมอื่นๆในไทย แต่ผมก็ยังคงจะเล่นต่อไปเพราะผมชอบมัน และเป็นการแสดงออกให้ทุกคนเห็นว่า ให้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก อยากให้เห็นคนบางกลุ่มเห็นเราเป็นแบบอย่าง และมีกำลังใจจะทำในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องเกมก็ตาม” Book กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบันมีการปล่อย Trailer ของ Tekken8 โดยดูได้ที่นี่

ถือว่าเป็นเส้นทางที่ลำบากนะครับเนี่ย สำหรับการเป็นผู้เล่น Tekken เพราะว่ามีคนที่เก่งอีกเยอะแยะมากมาย แต่ยังไงก็ตามนี่ก็เป็นแค่เส้นทางส่วนหนึ่งของนักแข่งอีสปอร์ตในประเทศไทย และยังสามารถติดตามคนอื่นๆได้ในภายภาคหน้าครับ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ TOMITECH