ธนาคารกลางสิงคโปร์เตรียมออกกฎระเบียบใหม่ ที่จะสร้างความยุ่งยากแก่ นักลงทุนรายย่อย ในการซื้อขาย Bitcoin คริปโทเคอร์เรนซี เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อในเดือนตุลาคมนี้

จากการสำรวจล่าสุดของ Independent Reserve ชี้ให้เห็นว่า ชาวสิงคโปร์จำนวน 90% เคยได้ยินชื่อของ คริปโต อย่างน้อยหนึ่งสกุล ในขณะที่ 87% เคยได้ยินชื่อของ Bitcoin และมีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 47% ที่วางแผนจะซื้อคริปโต ในสิงคโปร์ภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า อีกทั้งยังมี ชาวสิงคโปร์ทถือครอง สินทรัพย์คริปโต อยู่จำนวน 40% และ 76% ในจำนวนนี้ได้ครอบครองคริปโต ตั้งแต่สองสกุลขึ้นไป โดยมได้ให้รายละเอียดไว้ว่า
Bitcoin ยังคงเป็นคริปโตที่นักลงทุนจำนวน 78% ถือครอง เงินดิจิทัล สกุลนี้จึงเป็นคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุด อันดับสองคือ Ethereum มีนักลงทุนถือครองอยู่จำนวน 50% และอันดับที่สามคือ Dogecoin มีนักลงทุนถือเหรียญนี้เป็นจำนวน 25%
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Ravi Menon กรรมการผู้จัดการของ องค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์ (MAS) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศ ได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าว ประกาศออกมาตรการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ผลสำรวจจำนวนมาก ทำให้เห็นว่า ผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงในสิงคโปร์ได้มีการซื้อขายสินทรัพย์คริปโต เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลจึงทำให้ดึงดูดคนมาลงทุน
“เหมือนกับว่านักลงทุนจะขาดสติจนไม่คำนึงความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีกันแล้ว ”
Menon กล่าว
ทาง MAS กำลังพิจารณาที่จะสร้างกำแพงเพื่อขัดขวาง นักลงทุนรายย่อย จากการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์คริปโต อย่างเช่น Bitcoin พร้อมสรุปสาระสำคัญของแนวทางการกำกับดูแลว่า จะสอดคล้องกับหัวข้อของงานสัมมนาที่ใช้ชื่อว่า “ส่งเสริมนวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในคริปโทเคอร์เรนซี”
ในเดือนตุลาคมนี้ ทาง MAS จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่มีต่อแนวทางการกำกับดูแลคริปโต พร้อมกับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังเข้ามาร่วมพิจารณามาตรการของ MAS
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ TOMITECH