BANDAI NAMCO HOLDINGSl ผู้ที่ครองใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านผลิตสื่อบันเทิงด้านเกมและการ์ตูน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีธุรกิจอื่นๆอีกมาก ทั้งการผลิตของเล่น เครื่องเกม ของที่ระลึก และการจัดนิทรรศการต่างๆ

โดยบริษัท BANDAI NAMCO เป็นผู้ที่ครอบครอง IP (Intellectual Property) หรือ สินทรัพย์ทางปัญญาหลากหลายแบรนด์มากกว่า 300 IP ในการผลิตของเล่น โดยตัวอย่างแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น Gundam Series , Ultraman Series , KAMEN RIDER Series , Super Sentai Series , Love Live! / THE IDOLM@STER / IDOLiSH7 Series, หรือแม้แต่อนิเมะกระแสหลักอย่าง BORUTO / NARUTO / ONE PIECE / DRAGON BALL Series ซึ่งได้สร้างผลงานที่ผูกพันในใจของผู้คนยุคดิจิตอลหลากหลายมากเลยทีเดียว
ซึ่งตัวบริษัทมีกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่บริษัท นั่นคือการ Maximizing IP Value โดยการนำ IP ที่มีอยู่ไปต่อยอดและ Leverage เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมีปรัชญาในการพัฒนา IP เป็นหลัก 3C คือ Cultivation , Creation และ Co-Reaction ซึ่งผลที่ได้จากการนำ IP ไปต่อยอดนี้ ทำให้บริษัทมี Business Segment ออกมาทั้งสิ้น 6 ส่วน ได้แก่
- ธุรกิจของเล่นและของสะสม (Toys and Hobby)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 33% มี Profit Margin ประมาณ 8% - ธุรกิจให้ความบันเทิงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Network Entertainment)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 46% มี Profit Margin ประมาณ 14% - ธุรกิจให้ความบันเทิงผ่านการสัณทนาการ (Real Entertainment)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 13% มี Profit Margin ประมาณ 4% - ธุรกิจผลิตภาพวิชวลและดนตรีประกอบ (Visual and Music Production)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 6% มี Profit Margin ประมาณ 17% - ธุรกิจผลิตสินทรัพย์ทางปัญญา (IP Creation)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% มี Profit Margin ประมาณ 26% - ธุรกิจอื่นๆ (Other)
คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% มี Profit Margin ประมาณ 3%
ตอนนี้ BANDAI NAMCO ยังมีรายได้หลักมาจากประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียวถึง 80% ดังนั้นแล้วหากบริษัทสามารถขยายฐานรายได้จากนอกประเทศได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทได้ ที่นี่
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ TOMITECH