
Crypto Amulets เป็นพระเครื่องดิจิทัลชิ้นแรก ที่นำพระเครื่องเข้าสู่ระบบ Blockchain และจัดทำเป็น NFT เพื่อออกจำหน่าย มีทั้งหมด 8,000 ชิ้น 8 แบบ
โดยแต่ละชิ้นงานจะมีภาพ หลวงปู่เฮง ปภาโส ในกรอบฉัตร พร้อมยันต์ 8 แบบ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แน่นอนว่าทุกชิ้นผ่านพิธีปลุกเสกแล้วจากหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม จังหวัดสุรินทร์
สิ่งที่ทำให้สนใจนำพระเครื่องเข้าระบบ Blockchain โดยบล็อกเชนเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง เก็บข้อมูลแบบถาวร ไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ โปร่งใส ปลอดภัย และไร้ตัวกลาง นี่เลยถือเป็นโอกาสที่จะได้นำพระเครื่องเข้ามาขายผ่านระบบ Blockchain และ โปรเจกต์นี้ ถือเป็นโปรเจกต์แรกของโลกและวงการพระครื่องไทยที่นำเข้าพระเครื่องพระบูชาเข้าสู่ Blockchain ซึ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์
การซื้อขายจะเป็นระบบสุ่ม ผ่านสกุลเงินอีเทอเรียม ผู้ซื้อไม่สามารถเลือกได้ว่าตนเองจะได้ผลงานเวอร์ชันใดจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมงหลังหมดเวลาซื้อขาย เพื่อดูงานศิลป์ ผู้ซื้อผลงานชิ้นหมายเลขแรกจะมีราคาถูกกว่าผลงานชิ้นหลัง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้รับ Rare Item จากคอลเล็กชันนี้
เมื่อพูดถึงเรื่องความเหมือนหรือแตกต่าง ระหว่างพระเครื่องแบบดั้งเดิมกับพระเครื่อง Digital จริงๆ ก็ไม่แตกต่างกันมาก การสร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องพระบูชาแบบดั้งเดิมเริ่มจากออกแบบลายเส้นงานศิลปะก่อน โดยวาดลายเส้นจนเราพึงพอใจความสวยงามของงานชิ้นนี้ จากนั้นก็มาทำขั้นตอน 3D เพื่อเน้นมิติของงาน ให้เกิดความคมชัดตรงรอยโค้ง รอยเว้า และตรงส่วนต่างๆ ที่จะเพิ่มเติมแต่งให้คมชัดและสวยงามมากขึ้น แล้วค่อยมาทำเป็นบล็อกเหล็กหนึ่งตัว แกะบล็อกออกมาเรียบร้อยจนได้แบบสำเร็จรูปพร้อมนำมาปั๊มผลิตวัตถุมงคลตามจำนวนที่เราต้องการได้
ส่วน Crypto Amulets จะเริ่มจากลายเส้นเหมือนกัน โดยรังสรรค์ผลงานออกมาก่อนว่าเราอยากโชว์ลวดลายแบบไหน จากนั้นก็มาปรับอีกครั้งในงาน 3D เน้นความคมชัดและมิติของงาน เพื่อให้เกิดความสมดุลของงานที่ออกมาในรูปทรงสวยงาม ก่อนนำมา Render ตามเนื้องานที่ต้องการอย่างการลงสีทอง สีเงิน สีต่างๆ ก็เรนเดอร์ไปเรื่อยๆ แต่ละชิ้นงาน บางลายอย่างลายกนกจะใช้เวลาค่อนข้างนานมาก ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยกว่าจะได้ออกมาเป็นลายลายหนึ่งแบบเสร็จสมบูรณ์ แล้วก็มีต้นทุนสูงมากด้วย
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น ก็คือพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าการปลุกเสกพระ โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างพระเครื่องทั้งแบบดั้งเดิมและที่อยู่บนระบบบล็อกเชนเลยทีเดียว
ถือว่าเป็นการพลิกวงการพระเครื่องเลยครับ สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของก็อาจจะไม่ทันแล้วนะครับ เพราะว่ามีคนครอบครองไปหมดแล้ว แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจของไทยในวงการ NFT ครับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ TOMITECH